วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ล่องเรือในซองฟยอร์ด





๑๖ ต.ค. เข้าพักที่Fretheim Hotel ซึ่งก่อตั้งตั้งแต่ค.ศ. ๑๘๗๐ อยู่ริมฝั่ง Sognefjord พอถึงเวลาบ่ายสามไปลงเรือล่องไปตามลำนำ้สาขาของ Sognefjord อากาศเย็นสบาย
เมื่อเรือออกแล่นไปได้สักประเดี๋ยวเริ่มมีนกนางนวลบินเข้ามาใกล้ เราโปรยขนมปังลงไปมันก็พากันบินโฉบลงมากิน ดูท่าคงจะมีความสุขดี

บนเรือนอกจากกลุ่มของเราแล้วยังมีนักท่องเที่ยวชาวจีน ญี่ปุ่น แขกและน่าจะเป็นสเปนหรืออิตา เลียนหน่มๆสาวๆ๓_๔คนและชาวยุโรปอื่นๆอีกบ้าง

บนเขายังมีคนนำแกะขึ้นไปเลี้ยง โอ้โฮ เห็นแล้วนึกถึงเรื่องไฮดี้ขึ้นมาเลย เข้าใจเลยว่าปู่ของไฮดี้ ชอบอยู่อย่างสันโดษจริงๆ

จากยอดเขามีนำ้ตกลงมาเป็นระยะๆ นำ้กัดเซาะหินเป็นโตรกธาร ไหลลงสู่ลำนำ้ใหญ่ ใบไม้บนเขากำลังเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองประปราย บ้างก็เป็นสีทองงดงาม

เรือขึ้นฝั่งที่เมืองGudwagen ห่างจากฟลอม๑๒ กม. เขาขึ้นป้ายสะดุดตาว่า Norway in a Nutshell

วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Orchids in the Rajapruek Park, chiang mai






During 3-10 Dec. The Rajapruek Park, Chiang Mai hold an event in commemmoration to H.M. King Bhumipol's birthday. Many beautiful orchids decorated the atmosphere.

วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ล่องเรือที่เมืองฟลอม





๑๖ ต.ค. ตื่นตีห้า ออกจากโรงแรมสแกนดิก (Scandic) นั่งรถย้อนกลับไปที่เมืองวอสส์(Voss) ขึ้นรถไฟที่สถานีไมดาล(Myrdal) ไปสักครู่ก็เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟโบราณสายฟลอมบานา (Flambana) เป็นรถไฟรุ่นโบราณแต่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างดีเยี่ยม รูปลักษณ์จึงเอี่ยมอ่อง สวยงาม โบกี้ทำด้วยไม้ขัดเงาวับ

สองข้างทางสวยงามมาก มีลำธารคดเคี้ยวขนานกับทางรถไฟ บ้านไม้หลังเล็กๆทาสีเหลือง ดำ นวล ตั้งอยู่เป็นระยะ ยอดเขาประดับดัวยหิมะประปราย ไปได้สักครึ่งทางรถไฟหยุดให้นักท่องเที่ยวลงไปถ่ายรูปกับนำ้ตก แล้วแล่นต่อไปจนถึงเมืองฟลอม ระยะทางสายโรแมนติกนี้ยาว๒๐กิโลเมตร ลอดอุโมงค์ตั้ง๒๐ อุโมงค์ สั้นบ้าง ยาวบ้าง ต้องยกนิ้วให้ว่านอร์เวย์นี่เขาเป็นเจ้าแห่งอุโมงค์จริงๆ

เมื่อถึงฟลอมแล้วยังพอมีเวลา ไกด์จีงขอให้คนขับรถพาเราไปชมโรงแรมสตาลไฮม์(Stalheim)ซึ่งล้นเกล้าฯรัชกาลที่ห้าเคยเสด็จมาประทับเสวยพระสุธารสเม่ือครั้งเสด็จประพาสนอร์เวย์

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เบอร์เกน




หลังจากนั่งในรถและลงเรือเฟอร์รีข้ามฟากเป็นระยะทางสั้นๆราวสิบนาที แล้วขึ้นจากเรือ รถแล่นเลียบเขาต่อไปสองชั่วโมง ทางโค้งไปโค้งมาอีกหลายโค้ง สองข้างทางมีนำ้ตก ทะเลสาบและบ้านหลังย่อมๆสีสดใสอยู่ตามเนินเขาบ้าง ที่ราบบ้าง ในที่สุดก็ถึงเมืองเบอร์เกนซึ่งอยู่บนเนินเขา

ฝนตกพรำๆตลอดเวลา เมื่อไปถึงเป็นเวลาบ่ายแล้ว ไกด์พานั่งกระเช้ารางขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อชมเมือง แต่เนื่องจากฝนตกและหมอกลงจนมองไม่เห็นอะไรเลยพากันเข้าไปดูและซื้อของท่ีระลึกในร้านกัน สักพักจึงลงจากเขามาชมเมืองด้านล่าง

เบอร์เกนเป็นเมืองเก่าที่มีเสน่ห์ สดใส ทั้งเมืองและผู้คน สร้างขึ้นระหว่างค.ศ.๑๐๖๖_๑๐๙๓ในรัชสมัยของกษัตรย์Olav Kyrre เป็นเมืองหลวงเก่าและเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของนอรเวย์ ในสมัยกลางเป็นจุดเชื่อมการค้าของยุโรปกับกลุ่มประเทศแถบบอลติก ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่อยู่ริมอ่าว
ปัจจุบันมีพื้นที่๔๖๕ตารางกิโลเมตร ประชากรประมาณ ๒๕๐๐๐๐คน

ที่สำคัญเบอร์เกนได้ร้บการขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกจากการที่รักษาอาคารโกดังโบราณและฟื้นฟูบูรณะให้มีสภาพดึและสวยงาม ในภาพจะเห็นอาคารหลังคารูปทรงจั่วหลายหลังต่อเนื่องกัน ตลอดจนกลุ่มอาคารที่ต่อเนื่องกันด้านหลังทั้งหมด กลุ่มอาคารเหล่านี้เรียกว่าบริกเกน (Bryggen)

จุดดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่งคือแผงขายปลา มีปลาสดหลากชนิดและคาเวียร์ ใครซื้อปลาเขาจะห่อให้อย่างดี ไม่มีปัญหาในการนำกลับบ้าน มีบางคนในกลุ่มของเราซื้อปลาแซลมอนไปฝากคนทางบ้าน ส่วนเราเดินดูเป็นส่วนใหญ่ พอได้เวลาก็ขึ้นรถเข้าที่พักณ โรงแรมสแกนดิก ซึ่งเป็นโรงแรมที่ดีมาก

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

จากเกโลสู่เบอร์เกน






๑๕ ต.ค. ๒๕๕๒
๘.๐๐ น. ออกจากโรงแรมDr.Holms เมือง Geilo มุ่งสู่เบอร์เกน (Bergen) ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของนอรเวย์ เช้านึ้อุณหหภูมิ ๑ํ เซลเซียส เส้นทางผ่านภูเขาสูงขึ้นเรื่อยๆ หิมะหนาขึ้นตามระดับความสูง ต้นไม้ทิ้งใบหมดเหลือแต่ลำต้นและกิ่งก้าน ๙.๒๓ น.อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเป็น๓ํ c เมื่อถึงจุดสูงสุดมีหมอกลงจัด หิมะขาวโพลนจนมองไม่เห็นหนทาง แต่ไม่เป็นปััญหาเพราะมีไม้ปักไว้สองข้างทางเป็นแนวให้รถวิ่งไปตามนั้น คนขับรถจอดให้ลงไปถ่ายรูปกับหิมะ อากาศสดชื่นมาก

ขาลงเขาไม่ค่อยมีหิมะแล้ว มึแต่ต้นไม้ยืนต้นโกร๋น ยกเว้นต้นสนที่แทรกอยู่ตรงโน้นตรงนี้ ภูเขาเมืองนี้เป็นหินแกรนิต น่าสรรเสริญต้นไม้ที่แกร่ง สามารถขึ้นได้ ครั้นลงสู่ระดับตำ่ลงไปใบไม้กำลังเปลี่ยนเป็นสีทอง ถนนลัดเลาะคดเคี้ยวไปตามไหล่เขา บางช่วงลอดอุโมงค์สั้นบ้างยาวบ้าง หน้าอุโมงค์บอกความยาวของอุโมงค์ไว้ด้วย

วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ทอดกฐินที่สะเมิง




เมื่อวันเสาร์ที่๓๑ ตุลาคมที่ผ่านมา ได้ไปทอดกฐินกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่วัดพระบรมธาตุดอยผาส้ม อำเภอสะเมิง ออกเดินทางแต่เช้าไปทางแม่ริม เลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทางเดียวกับนำ้ตกแม่สาไปราว๔๐กม. เส้นทางร่มรื่น คดเคี้ยว วกวนไปตามไหล่เขา เมื่อถึงตีนยอดดอยที่จะขึ้นสู่พระบรมธาตุ ต้องเดินขึ้นไป ครั้นถึงยอดเขาที่ตั้งของพระบรมธาตุก็หายเหนื่อย อากาศเย็นสบาย

ครั้นได้เวลา ขบวนแห่ต้นกฐินก็พากันแห่แหนขึ้นมา เสียงโห่และฆ้องกลองเร้าใจ ขบวนแห่เดินเวียนรอบพระอุโบสถสามรอบแล้วทำพิธีถวายผ้าพระกฐินแด่พระสงฆ์ พระสงฆ์สวดพระพุทธมนตร์ ให้ศีลให้พรเป็นที่เย็นชุ่มชื่นใจแล้วก็แยกย้ายกันกลับ

ขากลับแวะอุดหนุนผลิตภัณฑ์โอท็อปของสะเมิง ได้ของฝากกลับบ้านด้วย

วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เที่ยวนอรเวย์







ระหว่างวันที่ ๑๔_๑๘ ต.ค. ๒๕๕๒ ไปเที่ยวนอร์เวย์ในโปรแกรมออสโลพรีเมียม ของการบินไทย

ออกเดินทาง ๐๐.๓๐ น.จากสุวรรณภูมิ ถึงออสโล ๗.๐๐ น. อุณหภูมิ ๐ํc สนามบินออสโลมีขนาดกระทัดรัด ผู้คนไม่มาก เรามาเที่ยวแรกสุด มีผู้โดยสารเที่ยวเดียวกันที่เป็นคนไทยราว๙๐ คน เสร็จจากพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้วขึ้นรถโค้ชออกนอกเมืองมุ่งไปโกล

สองข้างทางเป็นป่าสนสวยงาม ต้นเบิร์ชกำลังเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองและแดง มีทะเลสาบเป็นระยะๆ

ระหว่างทางมีบ้านเล็กๆ สีแดง เหลือง นำ้ตาล นวล ดูมีชีวิตชีวา บ้านเหล่านี้สูงไม่เกินสองชั้น โบสถ์ก็หลังเล็กๆ พอเหมาะกับประชากรที่มีไม่มาก เช่น โกล มีประชากรประมาณ ๔๐๐ คนเท่านั้น ย่านใจกลางเมืองมีร้านสะดวกซื้อ๒_๓ ร้าน แวะร้านแรก ชั้นล่างขายอาหารสดและแห้ง ชั้นบนขายเสื้อผ้า รองเท้า หมวก กระเป๋า ถุงมือ เลยซื้อผลไม้ หมวกและถุงมือ สองอย่างหลังราคาอย่างละ๙๙ โครเนอร์ คุณภาพดีที่เดียว

เมืองนี้ดูสงบเงียบ คนน้อย ดูไม่รีบร้อน ลูกค้าและคนขายของมีเวลาพูดคุย ทักถามกัน ท่าทางสบายๆ องุ่นที่ซื้อไปหวาน หอม กรอบอร่อย ส่วนแอปเปิลเปรี้ยว

นั่งรถต่อไปถึงเมืองเกโล (Geilo) เข้าพักที่โรงแรมดร.โฮล์ม (Dr.Holms) เมืองนี้เป็นเมืองที่คนนิยมมาเล่นสกี วันที่ไปหิมะตกบ้างแล้ว แต่ยังไม่หนาพอที่จะเล่นสกีได้ ตามร้านค้านำเสื้อผ้าและอุปกรณ์สกีออกมาวางขายแล้ว

โรงแรมดร.โฮล์มเปิดตั้งแต่ค.ศ. ๑๙๐๙ ปีนี้ครบ๑๐๐ ปีพอดี เป็นอาคารสองชั้นสีขาว ภายในตกแต่งด้วยภาพเขียนงดงามราวกับเป็นหอศิลป์ ของตกแต่งก็เป็นของเก่าหรือที่ทำเหมือนของเก่า รวมทั้งเตาผิงและฟืนซึ่งดูเหมือนของจริง แต่ไม่ยักใช่





วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ภาษิต คำคมจาก tinybuddha/twitter.com

tinybuddha รวมรวมภาษิต คำคมที่เป็นประโยชน์ไว้มากมาย
นี่เป็นส่วนหนึ่ง

ความเมตตาอย่างหนึ่งที่คุณสามารถให้แก่ผู้อื่นได้ก็คือ การตั้งใจฟังโดยไม่ต้องออกความเห็น

การทำให้ผู้อื่่นเป็นสุขโดยพูดด้วยเมตตาและให้คำแนะนำที่จริงใจคือสัญญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่   (ปรมหรรษา โยคนันท์)
หากเราไม่เป็นตัวของเราเอง จริงแท้ในปัจจุบัน เราจะพลาดทุกสิ่ง  (ติทช์ นัท ฮันฮ์)

ถ้าท่านส่องประทีปให้ผู้อื่น หนทางของท่านก็จะสว่างด้วย  (พุทธพจน์)

ความเมตตาเป็นภาษาที่่คนหูหนวกได้ยิน และคนตาบอดมองเห็น   (มาร์ค เทวน)

วิธีพัฒนาสมองอย่างง่ายๆ

วิธีพัฒนาสมองอย่างง่ายๆ  ด้วยการปฏิบัติ ๕ อย่าง

๑. ลดเวลาการดูทีวีลง
๒. ออกกำลังกาย
๓. อ่านหนังสือที่่ชวนให้ใจจดจ่อ ใช้ความคิดและจินตนาการ
๔.นอนหัวคำ่ ตื่นเช้า
๕. หาเวลาอยู่ตามลำพังเพื่่อครุ่นคิด

(http://ow.ly/jxPi)

วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2552

แด่ผู้เกษียณราชการ

แด่ผู้เกษียณราชการ

ได้ทุ่มเทเพื่อราชการมานานแล้ว
ถึงเวลาผ่องแผ้วเป็นสุขศรี
เคยแบกรับภาระประดามี
ตุลานี้้เปลื้องภาระปลดระวาง

แต่นี้ไปจะได้เป็นนายตน
ปลอดวิตกปลอดกังวลไม่หม่นหมาง
ถอดหัวโขนหัวละคร ละ ปล่อยวาง
ตัวจะเบาใจจะว่างอย่างแท้จริง

มีเวลาทำงานอดิเรก
เอกเขนกร้องเพลงหงุงหงุงหนิง
อ่านหนังสือ ท่องเที่่ยวไปไม่ประวิง
เรีนรู้สิ่งสงสัยที่่ใจรัก

ออกกำลัง กินอาหารที่เหมาะสม
เข้าสังคมตามแต่ใจสมัคร
ได้ทุ่มเททำงานมานานนัก
ถึงเวลาผ่อนพักสุขนักเอย

(ตีพิมพ์ในข่าวสารสหกร์ออมทรัพย์ม.ช. ๒๕๕๑)

วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ปลูกต้นไม้หน้าฝน

หน้าฝนเป็นโอกาสดีของคนรักต้นไม้  ได้นำต้นยางนาที่ได้มาจากลำพูนและต้นกล้าสะเดาไปฝากเขาลงให้ที่สวนเมื่อสองอาทิตย์ก่อน หวังว่าจะรอดและเติบโต ให้ร่มเงาต่อไป
วันที่๑ ส.ค. ลูกชายชวนไปตลาดคำเที่ยง ซื้อหน่อกล้วยหอม กล้ามะรุม มะกรูด และมะละกอแขกดำมา แต่บ้านเรามีเนื้อที่ไม่มากและปลูกต้นไม้อื่นๆไวัหลายอย่างแล้ว จึงปลูกไม้ที่ซื้อมาใหม่ กับต้นขนุนและมะยมที่ขึ้นเองลงในท่ีดินของน้อง  ช่วงนี้ฝนไม่ตกมาหลายวันจึงต้องหมั่นรดนำ้  หวังว่าต้นไม้ทั้งหลายคงขึ้้นได้ดี


วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ดอกไม้ในบ้าน




ดอกไม้ในบ้าน

ดอกไม้ในบ้านบานตลอดปี ขณะนี้มีดอกบัว ดอกเข็ม กระดังงาไทย กระดังงาจีน(การเวก) พวงชมพู กล้วยไม้ เทียน นางแย้ม มะลิวัลย์และอื่นๆที่จำชื่อไม่ได้ ขอเชิญชมภาพ

Flowers in my front yard blooms all year round , those which are blooming are lotuses and water lillies, orchids ,etc. which I don't know their names.  Anyone who knows kindly tellme thier names.

วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

สนุกกับภาษา

เมื่อลูกชายบวช วันรุ่งขึ้นและวันต่อๆมาได้ไปใส่บาตร พระใหม่ วันหนึ่งมีแม่ของพระบวชใหม่มารอใส่บาตรพระลูกชายเช่นกัน เธอบอกว่าลูกชายเพิ่งบวชเมื่อวาน  เธอรู้สึกปลาบปลื้ม ดีใจมาก

พอพระลูกชายของเธอเดินมาถึง เธอจึงรีบเดินเข้าไปใกล้พร้อมพนมมือ กล่าวว่า  เจริญพรค่ะท่าน

ส่วนพระลูกชายของฉัน หลังจากบวชได้สักสองวัน เมื่อไปเยี่ยม ถวายอาหารและของใช้บางอย่างก็กล่าวถามว่า  โยมพ่อโยมแม่สบาดีหรือ  ตอบว่า สบายดี ถามต่อว่าโยมพี่โยมน้องล่ะ  ตอบว่า ก็สบายดีทั้งสองคน  พระจึงถามถึงสุนัขแสนรักที่บ้านว่า  แล้วโยมตุ๊ต๊ะล่ะ เป็นอย่างไร