วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เบอร์เกน




หลังจากนั่งในรถและลงเรือเฟอร์รีข้ามฟากเป็นระยะทางสั้นๆราวสิบนาที แล้วขึ้นจากเรือ รถแล่นเลียบเขาต่อไปสองชั่วโมง ทางโค้งไปโค้งมาอีกหลายโค้ง สองข้างทางมีนำ้ตก ทะเลสาบและบ้านหลังย่อมๆสีสดใสอยู่ตามเนินเขาบ้าง ที่ราบบ้าง ในที่สุดก็ถึงเมืองเบอร์เกนซึ่งอยู่บนเนินเขา

ฝนตกพรำๆตลอดเวลา เมื่อไปถึงเป็นเวลาบ่ายแล้ว ไกด์พานั่งกระเช้ารางขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อชมเมือง แต่เนื่องจากฝนตกและหมอกลงจนมองไม่เห็นอะไรเลยพากันเข้าไปดูและซื้อของท่ีระลึกในร้านกัน สักพักจึงลงจากเขามาชมเมืองด้านล่าง

เบอร์เกนเป็นเมืองเก่าที่มีเสน่ห์ สดใส ทั้งเมืองและผู้คน สร้างขึ้นระหว่างค.ศ.๑๐๖๖_๑๐๙๓ในรัชสมัยของกษัตรย์Olav Kyrre เป็นเมืองหลวงเก่าและเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของนอรเวย์ ในสมัยกลางเป็นจุดเชื่อมการค้าของยุโรปกับกลุ่มประเทศแถบบอลติก ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่อยู่ริมอ่าว
ปัจจุบันมีพื้นที่๔๖๕ตารางกิโลเมตร ประชากรประมาณ ๒๕๐๐๐๐คน

ที่สำคัญเบอร์เกนได้ร้บการขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกจากการที่รักษาอาคารโกดังโบราณและฟื้นฟูบูรณะให้มีสภาพดึและสวยงาม ในภาพจะเห็นอาคารหลังคารูปทรงจั่วหลายหลังต่อเนื่องกัน ตลอดจนกลุ่มอาคารที่ต่อเนื่องกันด้านหลังทั้งหมด กลุ่มอาคารเหล่านี้เรียกว่าบริกเกน (Bryggen)

จุดดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่งคือแผงขายปลา มีปลาสดหลากชนิดและคาเวียร์ ใครซื้อปลาเขาจะห่อให้อย่างดี ไม่มีปัญหาในการนำกลับบ้าน มีบางคนในกลุ่มของเราซื้อปลาแซลมอนไปฝากคนทางบ้าน ส่วนเราเดินดูเป็นส่วนใหญ่ พอได้เวลาก็ขึ้นรถเข้าที่พักณ โรงแรมสแกนดิก ซึ่งเป็นโรงแรมที่ดีมาก

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

จากเกโลสู่เบอร์เกน






๑๕ ต.ค. ๒๕๕๒
๘.๐๐ น. ออกจากโรงแรมDr.Holms เมือง Geilo มุ่งสู่เบอร์เกน (Bergen) ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของนอรเวย์ เช้านึ้อุณหหภูมิ ๑ํ เซลเซียส เส้นทางผ่านภูเขาสูงขึ้นเรื่อยๆ หิมะหนาขึ้นตามระดับความสูง ต้นไม้ทิ้งใบหมดเหลือแต่ลำต้นและกิ่งก้าน ๙.๒๓ น.อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเป็น๓ํ c เมื่อถึงจุดสูงสุดมีหมอกลงจัด หิมะขาวโพลนจนมองไม่เห็นหนทาง แต่ไม่เป็นปััญหาเพราะมีไม้ปักไว้สองข้างทางเป็นแนวให้รถวิ่งไปตามนั้น คนขับรถจอดให้ลงไปถ่ายรูปกับหิมะ อากาศสดชื่นมาก

ขาลงเขาไม่ค่อยมีหิมะแล้ว มึแต่ต้นไม้ยืนต้นโกร๋น ยกเว้นต้นสนที่แทรกอยู่ตรงโน้นตรงนี้ ภูเขาเมืองนี้เป็นหินแกรนิต น่าสรรเสริญต้นไม้ที่แกร่ง สามารถขึ้นได้ ครั้นลงสู่ระดับตำ่ลงไปใบไม้กำลังเปลี่ยนเป็นสีทอง ถนนลัดเลาะคดเคี้ยวไปตามไหล่เขา บางช่วงลอดอุโมงค์สั้นบ้างยาวบ้าง หน้าอุโมงค์บอกความยาวของอุโมงค์ไว้ด้วย

วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ทอดกฐินที่สะเมิง




เมื่อวันเสาร์ที่๓๑ ตุลาคมที่ผ่านมา ได้ไปทอดกฐินกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่วัดพระบรมธาตุดอยผาส้ม อำเภอสะเมิง ออกเดินทางแต่เช้าไปทางแม่ริม เลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทางเดียวกับนำ้ตกแม่สาไปราว๔๐กม. เส้นทางร่มรื่น คดเคี้ยว วกวนไปตามไหล่เขา เมื่อถึงตีนยอดดอยที่จะขึ้นสู่พระบรมธาตุ ต้องเดินขึ้นไป ครั้นถึงยอดเขาที่ตั้งของพระบรมธาตุก็หายเหนื่อย อากาศเย็นสบาย

ครั้นได้เวลา ขบวนแห่ต้นกฐินก็พากันแห่แหนขึ้นมา เสียงโห่และฆ้องกลองเร้าใจ ขบวนแห่เดินเวียนรอบพระอุโบสถสามรอบแล้วทำพิธีถวายผ้าพระกฐินแด่พระสงฆ์ พระสงฆ์สวดพระพุทธมนตร์ ให้ศีลให้พรเป็นที่เย็นชุ่มชื่นใจแล้วก็แยกย้ายกันกลับ

ขากลับแวะอุดหนุนผลิตภัณฑ์โอท็อปของสะเมิง ได้ของฝากกลับบ้านด้วย